วันอังคารที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ประวัติของคอมพิวเตอร์และยุคของคอมพิวเตอร์

ประวัติของคอมพิวเตอร์และยุคของคอมพิวเตอร์

วิวัฒนาการของคอมพิวเตอร์เริ่มต้นมาจากอุปกรณ์ที่ใช้ในการคำนวณ นั่นก็คือ “ลูกคิด” ที่เรารู้จักกันดีในปัจจุบันนี้เอง ถือกำเนิดมาจากประเทศจีนเมื่อประมาณ 2-3พันปีมาแล้ว ซึ่งในยุคนั้นใช้สำหรับคำนวณระหว่างการซื้อขายของพ่อค้า ต่อมาในปี พ.ศ. 2185 แบลส ปาสกาล (Blaise Pascal) ได้สร้างเครื่องคำนวณที่เป็นเครื่องกลชื่อ Pacaline ขึ้นมา และได้ถูกพัฒนาให้มีความสามารถในการคำนวณมากขึ้น จากนักคณิตศาสตร์ชาวเยอรมันชื่อ Gottfried Von Leibniz ในปี พ.ศ. 2215
ต่อมาในปี พ.ศ. 2336 ชาร์ล แบบเบจ (Charles Babbage)นักคณิตศาสตร์ชาวอังกฤษ ได้ประดิษฐ์เครื่องมือที่เรียกว่า “Difference Engine” ที่สามารถคำนวณค่าของฟังก์ชันทางตรีโกณมิติได้ ซึ่งอาศัยหลักการต่างๆทางคณิตศาสตร์ และได้มีการพัฒนาสร้างเครื่อง “Analytical Engine” ขึ้นมา เครื่องมือนี้แบ่งการทำงานออกเป็น 3 ส่วน คือ 1.) ส่วนเก็บข้อมูล 2.) ส่วนคำนวณ และ 3.) ส่วนควบคุม ซึ่งมีหลักการในภาครวมคล้ายกับคอมพิวเตอร์ที่ใช้กันอยู่ จากหลักการนี้เองทำให้ ชาร์ล แบบเบจ ถูกยกย่องให้เป็นบิดาแห่งคอมพิวเตอร์ และนำหลักการของเขามาพัฒนาเป็นคอมพิวเตอร์ที่เรารู้จักกันในปัจจุบัน
ยุคของคอมพิวเตอร์จะแบ่งตามวิวัฒนาการของคอมพิวเตอร์ ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 5 ยุค คือ
1.)    ยุคหลอดสูญญากาศ     อยู่ระหว่างช่วง พ.ศ.2488 – 2501 คอมพิวเตอร์ที่ใช้ในยุคนี้คือ   UNIVAC I , IBM 600 เป็นคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดใหญ่มาก มีหลักการโดยนำหลอดสุญญากาศ (Vacuum tube) มาเป็นวงจรและใช้กระแสไฟฟ้าเป็นจำนวนมาก ทำให้เครื่องเกิดความร้อนสูงจึงทำให้เกิดความผิดพลาดได้ง่าย
2.)    ยุคทรานซิสเตอร์  อยู่ระหว่างช่วง พ.ศ. 2502 – 2506 คอมพิวเตอร์ในยุคนี้จะมีขนาดเล็กกว่าคอมพิวเตอร์ในยุคแรก เนื่องการมีการนำทรานซิสเตอร์ (Transistor) มาเป็นวงจร และนำวงแหวนแม่เหล็กมาใช้เป็นหน่วยความจำ ทำให้มีความแม่นยำมากขึ้น
3.)    ยุควงจรรวม อยู่ระหว่างช่วง พ.ศ. 2507 – 2512  คอมพิวเตอร์ในยุคนี้มีการนำวงจรไอซี (Integrated Circuit) มาใช้เป็นสารกึ่งตัวนำซึ่งบรรจุวงจรทางตรรกะ แล้วพิมพ์ไว้บนแผ่นซิลิกอน (Silicon) ที่เราเรียกสั้นๆว่า “ชิป”
4.)    ยุควีแอลเอสไอ อยู่ระหว่างช่วง พ.ศ. 2513 – 2532  คอมพิวเตอร์ในยุคนี้มีการนำวงจรไอซีจำนวนมารวมไว้ในแผ่นซิลิกอน 1 แผ่น ซึ่งสามารถบรรจุวงจรได้มากกว่า 1 ล้านวงจร เราเรียกว่าวงจร LSI (Large-Scale Integrated Ciruit) ด้วยวิวัฒนาการนี้ทำให้เกิดแนวคิดที่จะบรรจุวงจรที่เป็นพื้นฐานสำคัญในการทำงานของคอมพิวเตอร์(CPU) ลงบนชิปตัวเดียว เรียกว่า “ไมโครโปรเชสเซอร์”
5.)    ยุคเครือข่าย อยู่ระหว่างช่วง พ.ศ. 2513 – จนถึงปัจจุบัน คอมพิวเตอร์ในยุคนี้มีการนำวงจร LSI มาพัฒนาระบบไมโครโปรเซสเซอร์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นจากเดิม เรียกวงจรแบบนี้ว่าวงจร VLSI (Very Large-Scale Integrated Ciruit) และมีการพัฒนาเครือข่ายทำให้สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้ พร้อมทั้งยังมีขีดความสามารถที่มากขึ้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น