วันอังคารที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ประวัติของความเป็นมาของคอมพิวเตอร์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

ประวัติของความเป็นมาของคอมพิวเตอร์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

มาดูประวัติของคอมพิวเตอร์และเรื่องราวสำคัญต่างๆที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ตั้งแต่ 500-600 ปี ก่อน ค.ศ. จนถึงปี ค.ศ. 2010

500-600 ปี ก่อนค.ศ. ประเทศจีนใช้ ลูกคิด (abacus) เป็นเครื่องช่วยนับ

ค.ศ. 1642 เบลส ปาสคาล (Blaise Pascal) ชาวฝรั่งเศส ประดิษฐ์เครื่องบวกและลบเลขเครื่องแรก โดยใช้ฟันเฟืองได้สำเร็จ เขาได้รับการยกย่องเป็นผู้ประดิษฐ์เครื่องคิดเลข เครื่องแรกของโลก เรียกว่า Pascaline Calculator
 ค.ศ. 1673 ก็อตฟรี่ วิลเฮล์ม เลบนิซ (Gottfried Wilhelm Leibniz) ชาวเยอรมัน ผู้คิดค้นแคลคูลัส เขาได้ประดิษฐ์เครื่องบวก ลบ คูณ หาร และหารากที่สองได้อย่างอัตโนมัติ เรียกว่า วงล้อของเลบนิซ (Leibniz wheel)

 ค.ศ. 1822 ชาร์ลส์ แบ๊บเบจ (Charles Babbage) ชาวอังกฤษ ประดิษฐ์เครื่องจักรซึ่งสามารถคำนวณค่า ฟังก์ชันตรีโกณมิติ สมการโพลิโนเมียล สมการผลต่าง และฟังก์ชันต่างๆ ทางคณิตศาสตร์ได้ เรียกว่า Difference Engine

 ค.ศ. 1830 ชาร์ลส์ แบ๊บเบจ (Charles Babbage) ได้พัฒนาความคิดต่อเนื่องไปเป็นเครื่อง Analytical Engine มีการทำงานคล้ายกับคอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน คือมีส่วนเก็บข้อมูล ส่วนคำนวณ และส่วนควบคุม ถึงแม้ว่าจะสร้างไม่สำเร็จ แต่ชาร์ลส์ แบ๊บเบจ ก็ได้รับการยกย่องเป็นบิดาของคอมพิวเตอร์

ค.ศ. 1843 เอดา ออกัสตา เลิฟเลซ (Ada Augusta Lovelace) ชาวอังกฤษ ซึ่งเคยร่วมงานกับ แบ๊บเบจ ได้พัฒนา Analytical Engine โดยสามารถใช้เลขฐานสองแทนฐานสิบ และเขียนโปรแกรมด้วยบัตรเจาะรูได้คนแรกของโลก เธอจึงได้รับการยกย่องเป็นโปรแกรมเมอร์คนแรกของโลก

ค.ศ. 1847 จอร์จ บูลล์ (George Boole) ชาวอังกฤษ ได้คิดค้น Boolean Algebra ในงานเขียนของเขาชื่อ The Mathematical Analysis of Logic ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นรากฐานของการพัฒนาวงจรของหน่วยคำนวณ และตรรกะของคอมพิวเตอร์ โดยใช้สภาวะเปิดและปิด (1 และ 0)

ค.ศ. 1890 เฮอร์แมน ฮอลเลอริธ (Herman Hollerith) ชาวอเมริกันได้คิดค้นเทคนิคการคำนวณแบบใหม่โดยใช้บัตรเจาะรู ทำให้สามารถประมวลผลได้เร็วกว่าการประมวลผลด้วยมือมาก

ค.ศ. 1896 เฮอร์แมน ฮอลเลอริธ (Herman Hollerith) ได้ก่อตั้งบริษัท The Tabulating Machine Company ซึ่งต่อมากลายเป็นบริษัทไอบีเอ็ม (International Business Machines Corporation)

ค.ศ. 1936 เป็นครั้งแรกที่โลกได้มีเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องแรกที่สามารถตั้งโปรแกรม ได้อย่างอิสระ ผู้พัฒนาคือ Konrad Zuse และชื่อคอมพิวเตอร์คือ Z1 Computer

ค.ศ. 1942 ศ. John Atanasoff และ Clifford Berry ได้ร่วมกันสร้าง Atanasoff Berry Computer ซึ่งสามารถประมวลผลเลขฐานสอง (ไบนารี) ได้

ค.ศ. 1946 ด.ร.จอห์น มาชลี่ และ ด.ร. จอห์น เอ็กเกิร์ต (Dr. John W. Mauchly and Dr. John P. Eckert) ชาวอเมริกัน ได้ประดิษฐ์คอมพิวเตอร์อิเล็กทรอนิกส์เป็นเครื่องแรกของโลก ชื่อว่า ENIAC (Electronic Numerical Integrator And Computer)

ค.ศ. 1947 ถึง 1948 John Bardeen, Walter Brattain และ Wiliam Shockley สร้างคอมพิวเตอร์ที่ใช้ทราสซิสเตอร์ ถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ที่สำคัญ

ค.ศ. 1948 Frederic Williams และ Tom Kilburn สร้างคอมพิวเตอร์ที่ใช้ cathode-ray tube เป็นหน่วยความจำ

ค.ศ. 1949 ด.ร.จอห์น วอน นิวแมน (Dr. John Von Neuman) ชาวอเมริกัน และทีมงานที่พัฒนาเครื่อง ENIAC ที่มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย ได้พัฒนาเครื่องคอมพิวเตอร์ที่สามารถเก็บโปรแกรมไว้ในเครื่อง และทำงานได้โดยอัตโนมัติ ชื่อว่า EDVAC (Electronic Discrete Variable Automatic Computer)

ค.ศ. 1951 Eckert-Mauchly Computer Corporation ได้ออกแบบ และผลิตเครื่องคอมพิวเตอร์ UNIVAC (Universal Automatic Computer) เครื่องนี้มีน้ำหนักประมาณ 7 ตัน ใช้ vacuum tubes 5,000 ตัว และมีความสามารถในการคำนวณได้ 1,000 ครั้งต่อวินาที นับเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องแรกที่ถูกพัฒนาสำหรับใช้ทางธุรกิจ (the first commercial computer)

ค.ศ. 1953 ไอบีเอ็ม (IBM) ออกจำหน่าย EDPM เป็นครั้งแรก และเป็นก้าวแรกของไอบีเอ็มในธุรกิจคอมพิวเตอร์

ค.ศ. 1954 John Backus และ IBM ร่วมกันสร้างภาษาคอมพิวเตอร์ชื่อ FORTRAN ซึ่งเป็นภาษาระดับสูง (high level programming language) ภาษาแรกในประวัติศาสตร์คอมพิวเตอร์

ค.ศ. 1955 (ใช้จริง ค.ศ. 1959) สถาบันวิจัยแสตนฟอร์ด, ธนาคารแห่งชาติอเมริกา, และ บริษัทเจเนอรัลอิเล็กทริก ร่วมกันสร้าง ERMA และ MICR ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์เครื่องแรกในธุรกิจธนาคาร

ค.ศ. 1958 Jack Kilby และ Robert Noyce เป็นผู้สร้าง Integrated Circuit หรือ ชิป(Chip) เป็นครั้งแรก

ค.ศ. 1962 Steve Russell และ เอ็มไอที (MIT) ได้พัฒนาเกมคอมพิวเตอร์เป็นครั้งแรกของโลกชื่อว่า “Spacewar”

ค.ศ. 1964 Douglas Engelbart เป็นผู้ประดิษฐ์เมาส์ และ ระบบปฏิบัติการแบบวินโดว์

ค.ศ. 1969 เป็นปีที่กำเนิด ARPAnet ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของอินเทอร์เน็ต

ค.ศ. 1970 Intel พัฒนาหน่วยความจำชั่วคร่าวของคอมพิวเตอร์หรือ RAM เป็นครั้งแรก

ค.ศ. 1971 Faggin, Hoff และ Mazor พัฒนาไมโครโปรเซสเซอร์ตัวแรกของโลกให้อินเทล (Intel)

ค.ศ. 1971 Alan Shugart และ IBM พัฒนา ฟลอปปี้ดิสก์ เป็นครั้งแรก

ค.ศ. 1973 Robert Metcalfe และ Xerox ได้พัฒนาระบบอีเทอร์เน็ต (Ethernet) สำหรับระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

ค.ศ. 1974 ถึง ค.ศ. 1975 Scelbi และ Mark-8 Altair และ IBM ร่วมกันวางจำหน่ายคอมพิวเตอร์สำหรับผู้ใช้รายย่อยเป็นครั้งแรก

ค.ศ. 1975 บิลล์ เกตส์ กับ พอล อัลเลน ได้ร่วมกับก่อตั้ง ไมโครซอฟท์ สำนักงานใหญ่อยู่ที่เมือง Redmond, Washington, USA ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น ไมโครซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น



ค.ศ. 1976 ถึง ค.ศ. 1977 ถือกำเนิด Apple I, II และ TRS-80 และ Commodore Pet Computers ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลรุ่นแรกๆ ของโลก

ค.ศ. 1981 ไมโครซอฟท์ วางจำหนาย MS-DOS ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการที่ได้รับความนิยมที่สุดในช่วงนั้น

ค.ศ. 1982 ริชาร์ด สเครนต้า” หรือ “ริช” มีอายุเพียง 15 ปี เรียนอยู่เพียงชั้น ม.3 เขาเป็นผู้สร้างไวรัส”เอลก์ โคลนเนอร์ (Elk Cloner)” เป็นไวรัสตัวแรกของโลกที่เข้าไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลของผู้ใช้ ทั่วโลก โดยผ่านฟล็อปดิสก์ของเครื่องคอมพิวเตอร์ “แอปเปิ้ล II” และจะขึ้นคำกลอนของ “ริช สเครนต้า”

ค.ศ. 1983 บริษัทแอปเปิล ออกคอมพิวเตอร์รุ่น Apple Lisa ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์รุ่นแรกที่ใช้ระบบ GUI

ค.ศ. 1984 บริษัทแอปเปิล วางจำหน่ายคอมพิวเตอร์รุ่น แอปเปิล แมคอินทอช ซึ่งทำให้มีการใช้คอมพิวเตอร์อย่างกว้างขวาง

ค.ศ. 1985 ไมโครซอฟท์ วางจำหน่าย ไมโครซอฟท์ วินโดวส์ 1.0 เป็นครั้งแรก

ค.ศ. 1986 “เบรน (Brain)” เป็นไวรัสตัวแรกที่เข้าไปในระบบ “ดอส” ของไมโครซอฟต์ เป็นฝีมือของสองพี่น้องชาวปากีสถาน ไวรัสจะทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ติดเชื้อขึ้นเบอร์โทรศัพท์ร้านซ่อม คอมพิวเตอร์ของพวกเขา

ค.ศ. 1987 ไมโครซอฟท์ วางจำหน่าย ไมโครซอฟท์ วินโดวส์ 2.0

ค.ศ. 1988 ไมโครซอฟท์ วางจำหน่าย ไมโครซอฟท์ วินโดวส์ 2.1

ค.ศ. 1988 “มอร์ริส (Morris)” เป็นหนอนคอมพิวเตอร์ หรือโปรแกรมที่ถูกออกแบบมาให้มีความสามารถในการทำสำเนาตัวเองด้วยโค้ดที่ อยู่ในตัวมันเองโดยอิสระ ไม่ต้องรอการเรียกใช้งานจากผู้ใช้ หนอนคอมพิวเตอร์จะทำการแพร่กระจายตัวเองจากคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งไปยังอีก เครื่องหนึ่ง โดยอาศัยระบบเครือข่ายที่สามารถแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็วและทำความเสียหาย ได้

ค.ศ. 1990 ไมโครซอฟท์ วางจำหน่าย ไมโครซอฟท์ วินโดวส์ 3.0

ค.ศ. 1991 เซอร์ทิโมที จอห์น เบอร์เนิร์ส-ลี (Sir Timothy John Berners-Lee, OM, KBE, FRS, FREng, FRSA)สร้างเว็บไซต์แรกของโลก คือ http://info.cern.ch

ค.ศ. 1992 ไมโครซอฟท์ วางจำหน่าย ไมโครซอฟท์ วินโดวส์ 3.1

ค.ศ. 1993 ไมโครซอฟท์ วางจำหน่าย ไมโครซอฟท์ วินโดวส์เอ็นที 3.1

ค.ศ. 1994 ไมโครซอฟท์ วางจำหน่าย ไมโครซอฟท์ วินโดวส์เอ็นที 3.5

ค.ศ. 1995 ไมโครซอฟท์ วางจำหน่าย ไมโครซอฟท์ วินโดวส์เอ็นที 3.51

ค.ศ. 1995 ไมโครซอฟท์ วางจำหน่าย ไมโครซอฟท์ วินโดวส์ 95 หรือ วินโดวส์ 4.0

ค.ศ. 1996 ไมโครซอฟท์ วางจำหน่าย ไมโครซอฟท์ วินโดวส์ เอ็นที 4.0

ค.ศ. 1998 ไมโครซอฟท์ วางจำหน่าย ไมโครซอฟท์ วินโดวส์ 98 หรือ วินโดวส์ 4.1

ค.ศ. 1998  แลร์รี เพจ และ เซอร์เกย์ บริน ก่อตั้งกูเกิล google

ค.ศ. 1999 “เมลิสซา (Melissa)” เป็นไวรัสตัวแรกๆ ที่แพร่ผ่านอีเมล์ เมื่อผู้เปิดอีเมล์ติดเชื้อไวรัส ไวรัสจะก๊อบตัวเองส่งไปยังตามอีเมล์แอดเดรส 50 ที่อยู่แรก ทำให้ไวรัสแพร่ไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว

ค.ศ. 2000 “เลิฟบั๊ก (Love Bug)” แพร่โดยอีเมล์เช่นกัน โดยจะหลอกผู้รับว่าเป็นจดหมายรัก ทำให้ผู้รับรีบเปิดอีเมล์ดูโดยไม่ทันเฉลียวใจว่าถูกหลอก

ค.ศ. 2000 ไมโครซอฟท์ วางจำหน่าย ไมโครซอฟท์ วินโดวส์ 2000 หรือ วินโดวส์ เอ็นที 5.0

ค.ศ. 2000 ไมโครซอฟท์ วางจำหน่าย ไมโครซอฟท์ วินโดวส์ มี

ค.ศ. 2001 “โค้ดเรด (Code Red)” เป็น “หนอนเครือข่าย” ตัวแรกๆ ที่เข้าไปทำลายจุดอ่อนของซอฟต์แวร์ไมโครซอฟต์ และแพร่ไปยังคอมพิวเตอร์อื่นๆ อย่างรวดเร็ว เพราะแพร่ผ่านโดย “ระบบเครือข่าย” ไม่ต้องรอให้ผู้ใช้เข้ามาเปิดอีเมล์


ค.ศ. 2001 ไมโครซอฟท์ วางจำหน่าย ไมโครซอฟท์ วินโดวส์ เอกซ์พี และ เซิร์ฟเวอร์ 2003

ค.ศ. 2002  “Ramu Yalamanchi” ได้สร้าง Social Network ที่ชื่อ Hi5 ขึ้นมา

ค.ศ. 2003 “แบลสเตอร์ (Blaster)” ฉวยโอกาสที่รู้จุดอ่อนของซอฟต์แวร์ไมโครซอฟต์ และเกิดขึ้นพร้อมๆ กับไวรัส “โซบิ๊ก” ทำให้ทางไมโครซอฟต์ถึงกับเสนอรางวัลให้กับผู้ที่ชี้เบาะแสกับทางการหาตัวและ นำผู้ที่เขียนไวรัสมาลงโทษ

ค.ศ. 2004 “แซสเซอร์ (Sasser)” เด็กวัยรุ่นชาวเยอรมันเป็นผู้เขียนหนอนนี้ แพร่โดยอาศัยช่องโหว่จากระบบปฏิบัติการวินโดว์สของไมโครซอฟต์ ความเสียหายจากแซสเซอร์ มีตั้งแต่ทำลายระบบคอมพิวเตอร์ของโรงพยาบาลในฮ่องกง ที่ทำการไปรษณีย์หลายแห่งในไต้หวัน สายการบินบริติชแอร์เวย์เลื่อนเที่ยวบินประมาณ 20 เที่ยวบิน

ค.ศ. 2004 “Mark Zuckerburg” ได้เปิดตัวเว็บไซต์ facebook ตอนนั้น เปิดให้เข้าใช้เฉพาะนักศึกษาของมหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ดเท่านั้น

ค.ศ. 2006 ไมโครซอฟท์ วางจำหน่าย ไมโครซอฟท์ วินโดวส์ วิสตา และ เซิร์ฟเวอร์ 2008

ค.ศ. 2009 ไมโครซอฟท์ วางจำหน่าย ไมโครซอฟท์ วินโดวส์ 7 และ เซิร์ฟเวอร์ 2008 อาร์2

ค.ศ. 2010 ไมโครซอฟท์ พัฒนาไมโครซอฟท์ วินโดวส์ 8

เขียนโดย: ITClickMe.com
_________________________________________________________________________


0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น




แบ่งปัน แชร์

Twitter Delicious Facebook Digg Stumbleupon Favorites More
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น